Super User
แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2561 - 2565) เพิ่มเติม ครั้งที่ 2
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ประกาศใช้แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2561 - 2565) เพิ่มเติม ครั้งที่ 2 ประกาศ ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2563
ผังโครงสร้างหน่วยงาน
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อได้จัดทำเอกสาร ผังโครงสร้างหน่วยงานภายในของ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประชาสัมพันธ์ แก่ประชาชนทราบโดยทั่วกัน
ประกาศใช้แผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ (2564 - 2566) ปรับปรุ่งครั้งที่ 1
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ประกาศใช้แผนอัตรากำลัง 2 ปี ประจำปีงบประมาณ (2564 - 2566) ปรับปรุ่งครั้งที่ 1 ประกาศ ณ วันที่ 7 เมษายน 2564
ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง ขายทอดตลาดพัสดุชำรุด เสื่อมสภาพ
ด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ มีความประสงคืจะประกาศขายทอดตลาดพัสดุที่ชำรุด เสื่อมสภาพ โดยวิธีประมูลด้วยวาจา (ปากเปล่า)
ผู้ที่สนใจติดต่อขอรับเอกสารได้ที่ กองคลังองคืการบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ในวันที่ 19 -30 เมษายน 2564 เวลา 08.30 น. -16.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nong-bo.go.th/ หรือโทร 045-905280 ในวันและเวลาราชการ
ITA (แบบวัด OIT) ประจำปีงบประมาณ 2564
(Integrity and Transparency Assessment: ITA)
แบบวัดการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ OIT ประจำปีงบประมาณ 2564
O1 โครงสร้าง
O2 ข้อมูลผู้บริหาร
O3 อำนาจหน้าที่
O4 แผนยุทธศาสตร์/แผนพัฒนาหน่วยงาน
O5 ข้อมูลการติดต่อ
O6 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
O7 ข่าวประชาสัมพันธ์
O8 Q&A
O9 Social Network
O10 แผนดำเนินงานประจำปี
O11 รายงานการกากับติดตามการดำเนินงานประจำปี รอบ 6 เดือน
O12 รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
O13 คู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน
O14 คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการ
O15 ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ
O16 รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ
O17 E–Service
O18 แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
O19 รายงานการกำกับติดตามการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี รอบ 6 เดือน
O20 รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
O21 แผนการจัดซื้อจัดจ้าง/แผนการจัดหาพัสดุ
O22 ประกาศต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง/การจัดหาพัสดุ
O23 สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้าง/การจัดหาพัสดุ ประจำเดือน
O24 รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้าง/การจัดหาพัสดุ ประจำปี
O25 นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
O26 การดำเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
O27 หลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
O28 รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจำปี
O29 แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
O30 ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
O31 ข้อมูลเชิงสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
O32 ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
O33 การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
O34 เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
O35 การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร
O36 การประเมินความเสี่ยงการทุจริตประจำปี
O37 การดำเนินการเพื่อจัดการความเสี่ยงการทุจริต
O38 การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
O39 แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
O40 รายงานการกำกับติดตามการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี รอบ 6 เดือน
O41 รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี
O42 มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
O43 การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
หน่วยตรวจสอบภายใน
นายถาวร ดีงาม
ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล
นางถิรนันท์ นิชรัตน์
นักวิชาการตรวจสอบภายในชำนาญการ
กองสวัสดิการสังคม
นางสาวโชติมา สิงห์เรือง
ผู้อำนวนการกองสวัสดิการสังคม
มือถือ 094-3495448
นางสาววัชรี ศรีวรรณ
นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สภาพทั่วไป
ที่ตั้ง
ตำบลหนองบ่อ อยู่ห่างจาก ที่ว่าการอำเภอเมืองอุบลราชธานี ไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตามถนนแจ้งสนิท หลักกิโลเมตรที่ 9 บ้านหนองแก ผ่านบ้านทุ่งขุนน้อย ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี หรือหลักกิโลเมตรที่ 13 บ้านหนองไฮ ผ่านบ้านเชือก ตำบลหนองขอน อำเภอเมืองอุบลราชธานี เข้าสู่เขตตำบลหนองบ่อ ระยะทาง ประมาณ 20 กม.
เนื้อที่
ตำบลหนองบ่อ มีพื้นที่ประมาณ 48,750 ไร่ หรือประมาณ 78 ตารางกิโลเมตร
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลหนองขอน อำเภอเมืองอุบลราชธานี
- ทิศใต้ ติดต่อกับ อำเภอกัณทรารมณ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
ประชากร
จำนวนหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลหนองบ่อ มีทั้งหมด 13 หมู่บ้าน มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 7,641 คน แยกเป็นชาย 3,748 คน หญิง 3,893 คน จำนวนครัวเรือน 1,761 หลังคาเรือน
หมู่ที่ | ชื่อหมู่บ้าน | ประชากร | ครัวเรือน |
---|---|---|---|
1 | หนองบ่อ | 672 | 207 |
2 | หนองบ่อ | 399 | 155 |
3 | หนองบ่อ | 664 | 155 |
4 | หนองบ่อ | 874 | 284 |
5 | มะเขือ | 589 | 314 |
6 | โพนงาม | 797 | 278 |
7 | โพนงาม | 930 | 308 |
8 | ดงบัง | 1,181 | 408 |
9 | ดงบัง | 499 | 170 |
10 | จานตะโนน | 623 | 239 |
11 | จานตะโนน | 344 | 337 |
12 | สำลาก | 565 | 253 |
13 | ท่าสนามชัย | 654 | 259 |
ที่มา : สำนักทะเบียนอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน พ.ศ. 2561)
อาชีพ
อาชีพหลักส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ ทำสวน ปลูกพืชส่วนใหญ่ได้แก่ ข้าว ตลอดจนเลี้ยงสัตว์ ค้าขาย รับจ้างทั่วไป หัตถกรรมในครัวเรือน
หน่วยธุรกิจ
- ปั๊มน้ำมันหลอด 59 แห่ง
- โรงสีข้าว 8 แห่ง
- สถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง
การศึกษา
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 10 แห่ง
- โรงเรียนประถมศึกษา 11 แห่ง
- โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น (ขยายโอกาส) 5 แห่ง
- ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน 21 แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน 1 แห่ง
- ศูนย์สงเคราะห์ราษฎร 21 แห่ง
สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด/สำนักสงฆ์ 20 แห่ง
สาธารณสุข
- สถานีอนามัย 2 แห่ง
- อัตราการมี และการใช้ส้วมราดน้ำ 100%
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1 แห่ง
การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขอนุญาตเอกชน 1 แห่ง
- ตู้โทรศัพท์สาธารณะ 10 แห่ง
การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าเข้าถึง 21 หมู่บ้าน ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ครบทุกหมู่บ้าน
แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำน้ำ/ลำห้วย 15 สาย
- บึง/หนองน้ำและอื่น 6 แห่ง
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝาย 12 แห่ง
- บ่อโยก 1 แห่ง
มวลชนจัดตั้ง
- อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จำนวน 2 รุ่น
ถาม-ตอบ Q&A
- ถาม : เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ออกวันไหนค่ะ ?
- ตอบ : ไม่เกินวันที่ 10 ของทุกเดือนคะ
- ถาม : ชำระภาษีโรงเรือนช่วงพักเที่ยงได้ไหมครับ ?
- ตอบ : ได้ค่ะ มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ ไม่พักกลางวันค่ะ
- ถาม : สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้รึยังค่ะ ?
- ตอบ : เปิดให้บริการแล้วคะ
- ถาม : ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (Government e-Service) คืออะไร ?
- ตอบ : ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ คือ การให้บริการข้อมูลและการทำธุรกรรมของภาครัฐผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขอรับบริการ เกณฑ์ในการพิจารณาว่าระบบสารสนเทศของหน่วยงานจัดว่าเป็นระบบบริการ อิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ ครอบคลุมถึงการให้บริการกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบุคคลภายนอกหรือไม่ โดยกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวอาจเป็นได้ทั้ง ประชาชน หน่วยราชการ ภาคธุรกิจ และองค์กร และมีการให้ข้อมูล สนับสนุน หรือให้บริการที่สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงานท่านหรือไม่
การจัดการความรู้ (Knowledge Management) เพื่อเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization )
ความหมายของ "การจัดการความรู้" (Knowledge Management: KM)
การจัดการความรู้ หรือ KM ซึ่งที่ย่อมาจากคำว่า “Knowledge Management” คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคล หรือ เอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้และพัฒนาตนเองให้เป็ นผู้รู้ นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภา พ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด (อ้างอิงจาก สำนักงาน ก.พ.ร.)
KM ไม่ใช่เป้าหมาย แต่เป็นเครื่องมือ ที่จะช่วยให้มีการสร้าง รวบรวม จัดระบบ เผยแพร่ ถ่ายโอนความรู้ที่เป็นประโยชน์เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ต่างๆ ได้ทันเวลา และทันเหตุการณ์ จะส่งผลให้การปฏิบัติงานของคนในองค์กรมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ พันธกิจขององค์กร และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization )
ความหมายและรูปแบบของความรู้
ความรู้ คือ สิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษา เล่าเรียน การค้นคว้า หรือประสบการณ์ รวมทั้งความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะความเข้าใจ หรือ สารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการณ์ สิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิด หรือ การปฏิบัติ องค์วิชาในแต่ละสาขา (ที่มา : พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน)
รูปแบบของความรู้ มี 2 ประเภท คือ
1. ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่าง ๆ เอกสาร กฏระเบียบ วิธีการปฏิบัติงาน สื่อต่างๆ เช่น VCD DVD Internet เทป เป็นต้น และบางครั้งเรียกว่า ความรู้แบบรูปธรรม
2. ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่า ง ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด หรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ ประสบการณ์ แนวความคิด บางครั้งจึงเรียกว่า ความรู้แบบนามธรรม
การกำหนดขอบเขตและเป้าหมายของการจัดการความรู้
ก่อนที่จะมี จัดการความรู้ หรือทำ KM จะต้องมีการกำหนดขอบเขต และเป้าหมาย KM ก่อน ซึ่ง ขอบเขต KM เป็นหัวเรื่องกว้าง ๆของความรู้ที่จำเป็นและสอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์ตามแผนบริห ารราชการแผ่นดิน ซึ่งต้องการจะนำมากำหนดเป้าหมาย KM ซึ่งแต่ละองค์กรสามารถใช้แนวทาง ในการกำหนดขอบเขตและเป้าหมาย KM เพื่อจัดทำแผนการจัดการความรู้ขององค์กร ได้ 4 แนวทาง คือ
- แนวทางที่ 1 เป็นความรู้ที่จำเป็นและสนับสนุนวิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์ขององค์กร
- แนวทางที่ 2 เป็นความรู้ที่สำคัญต่อองค์กร เช่น ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า ประสบการณ์ความรู้ที่สั่งสมมา
- แนวทางที่ 3 เป็นปัญหาที่องค์กรประสบอยู่ และสามารถนำ KM มาช่วยได้
- แนวทางที่ 4 เป็นแนวทางผสมกันระหว่างแนวทางที่ 1 , 2 หรือ 3 หรือจะเป็นแนวทางอื่นที่องค์กรเห็นว่าเหมาะสม
แนวทางการตัดสินใจเลือกขอบเขต KM
การตัดสินใจเลือกขอบเขต KM อาจใช้แนวทางต่อไปนี้ มาช่วยในการตัดสินใจว่า ขอบเขต KM ใดที่องค์กรจะคัดเลือกมาจัดทำแผนการจัดการความรู้ขององค์กร เช่น
- ความสอดคล้องกับทิศทางและประเด็นยุทธศาสตร์ในระดับของหน่วยงานต นเอง
- ทำให้เกิดการปรับปรุงที่เห็นได้ชัดเจน หรือเป็นรูปธรรม
- มีโอกาสทำได้สำเร็จสูง (โดยพิจารณาจากความพร้อมด้านคน งบประมาณ เทคโนโลยี วัฒนธรรมองค์กร ระยะเวลาดำเนินงาน ฯลฯ)
- เป็นเรื่องที่ต้องทำ คนส่วนใหญ่ในองค์กรต้องการให้ทำ
- เป็นเรื่องที่ผู้บริหารให้การสนับสนุน
- เป็นความรู้ที่ต้องนำมาจัดการอย่างเร่งด่วน
- แนวทางอื่น ๆ ที่องค์กรเห็นว่าเหมาะสม
กระบวนการจัดการความรู้ และกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อสนับสนุนการจัดการความรู้
กระบวนการจัดการความรู้ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. และสถานบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เสนอให้ส่วนราชการนำมาจัดทำแผนการจัดการความรู้ และสอดคล้องกับขอบเขตและเป้าหมาย KM ขององค์กร มี 2 แนวคิด คือ
- แนวคิดเรื่องกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process)
- แนวคิดเรื่องกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management Process)
1. แนวคิดเรื่องกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process)
เป็นกระบวนการแบบหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงขั้นตอนที่ทำ ให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ หรือพัฒนาการของความรู้ที่จะเกิดขึ้นในองค์กร ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้
- การบ่งชี้ความรู้ คือ การค้นหาและระบุให้ได้ว่า การที่องค์กรจะบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ ขององค์กร และ คนในองค์กรจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ขณะนี้มีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด เช่น อยู่ในเอกสาร ฐานความรู้ หนังสือเวียน หรือในตัวบุคคล และอยู่ที่ใครบ้าง เป็นต้น
- การสร้างและแสวงหาความรู้ โดยการสร้างความรู้ใหม่ที่จำเป็นต่อองค์กร การแสวงหาความรู้จากภายนอกองค์กร ( องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับความรู้ที่ต้องการเป็นพิเศษ) การรักษาความรู้เก่าที่มีอยู่และยังเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ตลอดจนการกำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว เป็นต้น
- การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ คือ การวางโครงสร้างความรู้ในองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บค วามรู้อย่างเป็นระบบในอนาคต
- การประมวลและกลั่นกรองความรู้ คือ การปรับปรุงเอกสาร โปรแกรมการจัดเก็บเอกสารให้เป็นมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบและเนื้อหาเดียวกัน และปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำความรู้ไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมา กขึ้น
- การเข้าถึงความรู้ คือ การกำหนดรูปแบบและวิธีการที่จะทำให้คนในองค์กร สามารถเข้าถึงความรู้ได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรม การทำหนังสือเวียน การจัดทำ Website Web Board เป็นต้น
- การแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ การที่คนในองค์กรนำความรู้ที่มีอยู่มาแลกเปลี่ยนกัน ทั้งในรูปแบบที่จับต้องได้ เช่น เอกสาร ฐานความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ Intranet หรือในรูปแบบที่ไม่สามารถจับต้องได้ เช่น การจัดทีมข้ามสายงาน การจัดกิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม การจัดชุมชนแห่งการเรียนรู้ การใช้ระบบพี่เลี้ยงเพื่อสอนงาน การสับเปลี่ยนสายงาน การยืมตัว และการจัดเวทีความคิดเห็น เป็นต้น
- การเรียนรู้ คือ การที่คนในองค์กรนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาในรูปแบบและวิธีการต่ าง ๆ ไปใช้ในการปฏิบัติงาน โดยมีการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ และนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ในองค์กร
2. แนวคิดเรื่องกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management Process)
เป็นกรอบแนวคิดแบบหนึ่งเพื่อให้องค์กรที่ต้องการจัดการความรู้ภ ายในองค์กร ได้มุ่งเน้นถึงปัจจัยแวดล้อมภายในองค์กร ที่จะมีผลกระทบต่อการจัดการความรู้ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ดังนี้
- การเตรียมความพร้อมและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคนในองค์ก ร คือ ก ารเน้นให้ผู้บริหารเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการความรู้ การแก้ไขกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่น การสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างให้โอกาสพนักงานแสดงความคิดเห็น และการส่งเสริมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เช่น การประกาศนโยบายการจัดการความรู้ให้ทุกคนทราบ เป็นต้น
- การสื่อสาร เพื่อทำให้ทุกคนในองค์กรอยากให้ความร่วมมือในการจัดการความรู้ใ นองค์กร โดยการเน้นทุกคนเข้าใจถึงสิ่งที่องค์กรจะทำ ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับทุกคน และแต่ละคนจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร ผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่าง เช่น จดหมายเวียน E-Mail Intranet เป็นต้น
- กระบวนการและเครื่องมือ เพื่อทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลความรู้ในองค์กร และสามารถเข้าถึง ค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น โดยเน้นการพิจารณาความเหมาะสมกับชนิดของความรู้ ลักษณะขนาดสถานที่ตั้งองค์กร ลักษณะการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น หากเป็นความรู้ที่เป็นเอกสาร จับต้องได้ อาจใช้หนังสือเวียน หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงความรู้ แต่ถ้าหากเป็นความรู้ที่ต้องใช้ประสบการณ์ หรือใช้ประสาทสัมผัส อาจใช้การสอนงานระหว่างทำงาน หรือประสบการณ์โดยตรงเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงความรู้ เป็นต้น
- การฝึกอบรมและการเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและหลักการของการจั ดการความรู้ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องเกี่ยวกับการกำหนดเนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย วิธีการ และการประเมินผลและการปรับปรุงการฝึกอบรม / การเรียนรู้ ซึ่งตัวอย่างหลักสูตร ได้แก่ KM Implementation ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (COP) การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม การใช้ IT เป็นต้น
- การวัดผล เพื่อให้ทราบว่าการดำเนินการได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ และนำผลของการวัดมาปรับปรุงแผนและการดำเนินการให้ดีขึ้น ตลอดจนนำผลการวัดมาใช้ในการสื่อสารกับบุคลากรในทุกระดับให้เห็น ประโยชน์ของการจัดการความรู้
- การยกย่องชมเชยและให้รางวัล เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกระดับ โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องด้านความต้องการของบุคลากร แรงจูงใจระยะสั้นและระยะยาว การบูรณาการกับระบบที่มีอยู่ การปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกิจกรรมที่ทำในแต่ละช่วงเวลา
แผนการจัดการความรู้ ... กุญแจสู่ความสำเร็จในการจัดการความรู้ในองค์กร
แผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) เป็นแผนงานที่แสดงถึงรายละเอียดการดำเนินงานของกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรบรรลุผลตามเป้าหมาย (Desire State) ที่กำหนด
ขั้นตอนการจัดทำแผน KM
(อ้างอิงจากคู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้ โดย สำนักงาน ก.พ.ร. และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ)
- องค์กรจะต้องมีการกำหนดขอบเขตการจัดการความรู้ หรือ ขอบเขต KM (KM Focus Area) และเป้าหมาย KM (Desire State) ที่องค์กรต้องการเลือกทำ และต้องการจัดการความรู้ที่จำเป็นต้องมีในกระบวนงาน (Work Process) เพื่อสนับสนุนประเด็นยุทธศาสตร์ขององค์กร
- เมื่อองค์กรได้ตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมของขอบเขต KM (KM Focus Area) และเป้าหมาย KM (Desired State)แล้ว ให้นำหัวข้อเป้าหมาย KM ที่องค์กรต้องทำ มาจัดทำแผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) โดยการจัดทำแผนจะขึ้นอยู่กับความพร้อมขององค์กรที่ทำให้เป้าหมา ย KM บรรลุผลสำเร็จ โดยการประเมินองค์กรของตนเองก่อนจัดทำแผน KM
- การประเมินองค์กรของตนเองเรื่องการจัดการความรู้ เป็นกระบวนการที่ทำให้ทราบถึงความพร้อม (จุดอ่อน - จุดแข็ง / โอกาส - อุปสรรค) ในเรื่องการจัดการความรู้ และนำผลการประเมินดังกล่าวมาใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการจัดทำแ ผน KM ให้ สอดรับกับเป้าหมาย KM ที่เลือกไว้ โดยองค์กรสามารถเลือกวิธีการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการ ความรู้ที่เหมาะสมกับองค์กร ได้ดังนี้
- ใช้วิธีการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการความรู้ KMAT (The Knowledge Management Assessment Tool : KMAT) ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประเมินองค์กรตนเองในเร ื่องการจัดการความรู้ และให้ข้อมูลกับองค์กรว่ามีจุดอ่อน-จุดแข็ง / โอกาส-อุปสรรค ในการจัดการความรู้เรื่องใดบ้าง โดยเครื่องมือนี้แบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้
- หมวด 1 กระบวนการจัดการความรู้
- หมวด 2 ภาวะผู้นำ
- หมวด 3 วัฒนธรรมในเรื่องการจัดการความรู้
- หมวด 4 เทคโนโลยีการจัดการความรู้
- หมวด 5 การวัดผลการจัดการความรู้
- ใช้วิธีอื่น ๆ ในการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการความรู้ เช่น แบบสอบถาม รายงานผลการวิเคราะห์องค์กร เป็นต้น
การประเมินองค์กรตนเองดังกล่าว จะต้องเป็นการระดมสมองกันภายในองค์กรเอง โดยอย่างน้อยจะต้องมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามขอ บเขต KM และเป้าหมาย KM เข้าร่วมการประเมินองค์กรด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมินตนเองเรื่องการจัดการความรู้ จะต้องเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับขอบเขต KM และเป้าหมาย KM ซึ่งจะทำให้การจัดทำแผนการจัดการความรู้สามารถสอดรับกับผลลัพธ์ ที่ได้จากการประเมิน และส่งผลให้เป้าหมาย KM บรรลุผลสำเร็จตามแผนที่กำหนด
- ใช้วิธีการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการความรู้ KMAT (The Knowledge Management Assessment Tool : KMAT) ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประเมินองค์กรตนเองในเร ื่องการจัดการความรู้ และให้ข้อมูลกับองค์กรว่ามีจุดอ่อน-จุดแข็ง / โอกาส-อุปสรรค ในการจัดการความรู้เรื่องใดบ้าง โดยเครื่องมือนี้แบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้
- นำผลการประเมินตนเองที่ได้ มาจัดทำแผนการจัดการความรู้ หรือ แผน KM ตามกระบวนการจัดการความรู้ และกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง โดยให้ระบุถึง
- กิจกรรมต่าง ๆ ตาม กระบวนการจัดการความรู้ (7ขั้นตอน) และกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง (6 องค์ประกอบ)
- วิธีการสู่ความสำเร็จ
- ตัวชี้วัดความสำเร็จ
- เป้าหมาย
- วัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- งบประมาณดำเนินการ
- ผู้รับผิดชอบการดำเนินการ
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดทำ แผนการจัดการความรู้ โดยมีการกำหนดขอบเขต KM หรือกำหนดองค์ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานเพื่อ สนับสนุนประเด็นยุทธศาสตร์ขององค์กร ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ดังนี้
แผนการจัดการความรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มุ่งเน้นการจัดการความรู้เกี่ยวกับ
- "การส่งเสริม อปท. ในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นให้เชื่อมโยงกับแผนชุมชน"
แผนการจัดการความรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 มุ่งเน้นการจัดการความรู้เกี่ยวกับ
- "การส่งเสริม อปท. ในการดำเนินการตามโครงการจัดระเบียบการจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน"
- "การตรวจติดตามการจัดระบบควบคุมภายในของ อปท. ตามระเบียบ คตง. ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ. 2544 ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง"
ตัวอย่าง ***การดำเนินการการจัดการความรู้ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553